tag:blogger.com,1999:blog-53669812989479655102024-03-13T08:43:25.925-07:00jakrapunJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.comBlogger32125tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-13572202536368372832009-10-11T11:29:00.000-07:002009-10-11T11:31:43.060-07:00Pecha Kucha >> Love is Hear:: เนื่องจากความ ตื่นเต้น ลืม เวลาไม่พอ และความตื่นเต้นเมื่อขึ้นเวที จึงขอลงบทความที่เตรียมไว้ว่าจะพูดในงาน Pecha Kucha ฉบับสมบูรณ์ก่อนที่จะลืม ::<br /><br />ครั้งนึงผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ อาจารย์ติ๊ก (สันติ ลอรัชวี) ผู้ริเริ่มโครงการ I am a Thai Graphic Designer ครั้งนี้ท่านเคยบอกเอาไว้ว่า "ข้อแตกต่างระหว่าง Designer กับ Artist นั้นมีแค่เพียงว่า Designer นั้นทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในขณะที่ Artist นั้นตอบสนองความต้องการของตนเอง จึงทำให้อิสระในการทำงานนั้นมีมากกว่า" เส้นคั่นระหว่างทั้ง 2 นั้นจึงบางและคลุมเครือมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบุคคลทั่วไป<br /><br />Love is Hear คือคอนเสิร์ตที่มีโจทย์น่าสนใจมาก นั่นก็คือเป็นคอนเสิร์ตเพื่อน้องๆ ที่ไม่สามารถได้ยินเสียง ดังนั้นเมื่อขาดประสาทสัมผัสที่สำคัญในการเสพดนตรีไป สิ่งที่นักออกแบบจะสามารถเข้าไปเติมเต็มได้ แน่นอนเลยก็คือทางด้าน Visual นอกจากนี้ยังเสริมในส่วนของประสาทสัมผัสอื่นๆ ที่ไม่สามารถหาได้จากคอนเสิร์ตทั่วไป เช่น รส กลิ่น หรือการสัมผัส ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า Designer นั้นไม่ได้มีความสามารถในการทำงานจำกัดอยู่แค่เพียงทางด้านภาพเท่านั้น<br />คอนเสิร์ต Love is Hear ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือ ร่วมใจจากหลายๆ ฝ่ายทั้งจาก- NUDE communication และ นิตยสาร Happening- พี่ๆ Graphic Designer ทั้งหลาย- พี่ๆ ศิลปินรวมทั้งบุคคลอื่นๆ ที่ผมไม่ได้กล่าวถึง- และที่สำคัญคือ อาจารย์อาร์ต Try to be nice ที่อยู่เบื้องหลังคอนเสิร์ตในครั้งนั้น และงาน Pecha Kucha ในครั้งนี้<br /><br />สำหรับงานออกแบบที่ทาง Practical Studio ได้ทำขึ้นมานั้นก็เป็นโปสเตอร์ที่มีฟังก์ชั่นเพิ่มเติมเข้าไปจากโปสเตอร์ทั่วไปนั่นก็คือสามารถลอกออกมาเป็นสติกเกอร์เพื่อแปะตามตัวของผู้เข้าร่วมคอนเสิร์ต โดยเป็นสติกเกอร์รูปหัวใจดวงเล็กๆ ที่เมื่อลอกออกจนหมดแผ่นแล้วก็จะเห็นที่ว่างเป็นรูปหัวใจ โดยมีแนวคิดสำคัญคือการกระจายใจซึ่งจะเห็นได้ว่าเราได้กระจายไปทั่ว ทั้งผู้ชม นักดนตรี หรือแม้แต่คนที่เดินผ่านไปมาแถวสกาล่าในวันนั้น ซึ่งแนวคิดนี้ได้ผ่านการพัฒนามาหลายขั้นตอน จากที่เริ่มต้นอยากจะทำเป็นงาน Installation ก็กลายมาเป็นโปสเตอร์ ในขณะเดียวกันโปสเตอร์ธรรมดาก็สามารถทำหน้าที่สื่อสารได้เฉพาะพื้นที่ๆ เดียว อย่างมากก็มีคนถ่ายรูปไว้หรือเอาไปบอกต่อ ซึ่งโดยธรรมชาติของคนที่มาชมคอนเสิร์ตก็คงจะไปโฟกัสอยู่ที่ตัวคอนเสิร์ตมากกว่า<br /><br />โปสเตอร์ที่เราทำนั้นจึงแตกต่างเพราะนอกเหนือจากสามารถนำมาสวมใส่ได้แล้วนั้น เรายังเข้าถึงตัวผู้คน (เพราะติดไปตามตัวของเค้าเลย) ดังนั้นเมื่อคนๆ นั้นเคลื่อนที่ไปตามสถานที่ต่างๆ ก็ยังได้นำพาตัว Message ของโปสเตอร์นี้กระจายไปทำหน้าที่สื่อสารกับผู้พบเห็นหรือผู้ที่ถูก "ติด-ต่อ" ไปด้วย<br />อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะพูดถึงงานในครั้งนี้ก็คือ ในตอนแรกที่ผมได้กล่าวไว้ว่า Designer นั้นทำงานเพื่อตอบสนองลูกค้า ซึ่งในที่นี้ลูกค้าของเราก็คือน้องๆ ที่น่ารักจากโรงเรียนเศรษฐเสถียร ซึ่งก็เป็นลูกค้าที่น่ารักอย่างมาก ไม่เรียกร้องอะไรที่เกินเลย และที่สำคัญก็คือไม่เรื่องมากด้วย เราจึงสามารถทำงานได้อย่างอิสระ แต่ในขณะเดียวกันการที่น้องๆ ไม่เรียกร้องอะไรจากเรายิ่งทำให้เราต้องพยายามเข้าถึง และทำการบ้านมากกว่ากับลูกค้ารายอื่นๆ<br /><br />และผลตอบแทนที่ได้แม้ว่าจะไม่ได้มาเป็นเงิน แต่ความสุขที่ได้จากการทำงานในครั้งนี้ นี่แหละคือสิ่งที่ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณให้ Designer ทุกท่านยังคงทำงานอยู่จนถึงทุกวันนี้ และทั้งหมดที่กล่าวไปนั้นก็ยิ่งทำให้เส้นคั่นระหว่าง Designer และ Artist บางและคลุมเครือเข้าไปอีก<br /><br />สุดท้ายนี้ผมขอยกคำพูดที่คุณ ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา แห่ง Open เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในหนังสือ สารคดี ว่า"ทุกวันนี้เราถูกมายาคติของวิธีคิด การบริหารธุรกิจวัดผลความสำเร็จหรือล้มเหลวกันที่ผล กำไร-ขาดทุน เท่านั้น ซึ่งถ้าใช้วิธีคิดแบบนี้มองโลก ชีวิต และสิ่งที่ทำ เราจะแคบมากเพราะต้องตอบสนองการทำกำไรสูงสุดอย่างเดียว เราจะไม่สามารถทำอะไรที่อยากทำได้ เราต้องลืมข้อนี้ไปแล้วถามว่าเราอยากทำอะไร กำไรชีวิตที่มีค่ามากกว่าเรื่องเงินคืออะไร มิตรภาพที่ได้จากการทำงานตีมูลค่าได้มั้ย การที่เราได้หลายสิ่งในชีวิตที่อยากได้หรืออยากทำซึ่งเราคิดว่ามันมีคุณค่าสำหรับเรา นั่นเป็นเหตุผลให้เราทำในสิ่งที่ยังเชื่ออยู่"Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-64443657720493400892009-08-17T23:59:00.000-07:002009-08-18T00:02:52.843-07:00...มึนๆ งงๆ เนือยๆ<div>ฝันแปลกๆ ถึงคนที่ไม่รู้จัก ไม่สนิท และไม่น่าคิดถึง</div><div>รู้ว่ามันไม่ดี</div><div>ทำไงได้ ก็แค่ฝัน...</div>Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-25554187363618322732009-05-23T09:03:00.001-07:002009-05-23T09:03:58.453-07:00walkวันนี้เดินไปสะพานควายเกือบจะตามปกติเพราะเป็นการเดินอย่างมีสติมาก<br />ตามปกตินั้นเวลาเดินก็มักจะคิดเรื่องอะไรเรื่อยเปื่อย ซึ่งสำหรับเรานั้นการเดินก็ช่วยสร้างจินตนาการได้ดีเช่นเดียวกับความมืด ฉะนั้นถ้าใครคิดจะสร้างห้องทำงานให้เป็นห้องมืดที่มีเครื่องวิ่งออกกำลังกายผมก็คงจะไม่ตะขิดตะขวงแต่อย่างใด<br />การเดินวันนี้ที่มีสติก็เพราะว่าพื้นรองเท้าแตะนั้น ดอกยากได้สูญสลายไปตามกาลเวลาเรียบร้อยแล้ว เพื่อพบกับพื้นถนนที่ฝนพึ่งตกหมาดๆจึงไม่ต่างอะไรกับการเล่นสเก็ตน้ำแข็งเลย จึงต้องเดนซอยเท้าและก้มมองพื้นตลอดเวลาพร้อมกลับคิดตลอดว่า ทำไมกูไม่ใส่คู่อื่นมาวะแต่ที่จริงความบกพร่องบางอย่างก็เป็นข้อดีเหมือนกัน ปกติทุกวันที่เราเดินไปสะพานควายนั้นค่อนข้างที่จะเรื่อยเปื่อยมาก (พักนี้เดินทุกวัน)เคยเรื่อยเปื่อยจนรถเกือบชน แต่การเดินทั้งลื่นๆ นี้ก็สนุกดีไปอีกแบบ ล้มไม่กลัวหรอกแต่กลัวอายคนรอบข้างมากกว่า<br />ชีวิตนี้ล้มมาหลายครั้ง ความเจ็บน่ะไม่เท่าไร่หรอกแต่เสียงหัวเราะจากคนรอบข้างนี่สิเจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจผมว่าคนอื่นก็คงเป็นเหมือนผม โดยเฉพาะถ้าคนที่หัวเราะนั้นเป็นคนที่เรารักแล้วด้วยนั้นแทบอยากจะนอนตายอยู่ตรงนั้นเลย<br />แต่ก็นั่นแหละแรงถากถาง เยาะเย้ยนี่สิถึงเป็นแรงกระตุ้นให้เราลุกขึ้นสู้ใหม่ได้อย่างมุ่งมั่นกว่าเดิมชักเรื่อยเปื่อยแล้ว ลาดีกว่า<br />ปล. หลายเดือนก่อนไปเดินงานกาชาดได้กิน ทอดมันปลาหมึก อร่อยมาก เดาเอาเองว่าเป็นการเอาเนื้อของทอดมันปลากรายมาผสมกับปลาหมึกแล้วทอด ขีดละ 30 กับการชั่งที่เห็นเฉพาะคนขาย ชอบๆๆ มีขายที่ไหนอีกใครช่วยบอกทีJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-19772216782631084252009-03-20T21:18:00.000-07:002009-03-20T21:19:39.231-07:00...เบื่อ...<br /><br />เซ็ง...<br /><br />เอายังไงกับชีวิตดี...<br /><br />กินแต่เหล้า...<br /><br />เวทนาJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-12439267716153521282009-03-07T08:13:00.000-08:002009-03-07T08:17:07.688-08:00JOKEไม่ได้เข้ามาอัพนานมากแล้ว รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก<br /><br />เนื่องด้วยเมื่อคืนนั้นกิน "คัพโจ๊ก" ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ได้พิศวาสโจ๊กเลย( ดูได้จากตั้งแต่มีอายุนี่กินโจ๊กได้ประมาณไม่ถึง 5 ครั้งได้ ) เป็นโจ๊กคนอร์ที่ซื้อไว้เพื่อจะตอกไข่ใส่ลงไป ( นัยว่ากินไข่เพิ่มพลัง ) แล้วตัวฝาเปิดมันนั้นเป็นอะไรที่ประทับใจมาก ตามปกติเวลากิน มาม่า ไวไว หรือ ยำยำ ( ทำไมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้องซ้ำคำเนี่ย ) แล้วฝาของมันมักจะเป็นปัญหาตรงที่มันฉีกขาดไม่เรียบร้อย จึงเป็นปัญหาในการปิดฝาให้ความร้อนละอุอยู่ภายใน อีกทั้งฝาก็มักเผยอ จึงต้องหาอะไรมาทับไว้เสียเวลาและความรู้สึก แต่ฝา คนอร์ นั้นใช้วัสดุที่เหนียว ฉีกไม่ขาด และที่สำคัญคือฝาปิดกับขอบถ้วยได้อย่างสวยงามไม่ต้องหาอะไรทับ จึงรู้ซึ้งว่าของราคาแพงย่อมดีกว่าจริงๆ ( แพงกว่ามาม่าถ้วยนิดหน่อย เท่าไหร่จำไม่ได้ ไม่ได้เรียนการตลาด )และรู้สึกดีกับโจ๊กถ้วยนี้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงบันทึกลงในบล็อกนี้ เพื่อความสบายใจของตัวผมเองJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-1605311737251240442008-11-25T21:53:00.000-08:002008-11-25T22:04:17.677-08:00หายไปนาน<span class="Apple-style-span" style="font-size: small;"><span class="Apple-tab-span" style="white-space:pre"> </span>ก็ไม่ได้อัพบล็อกมานานมาก ความจริงมีเรื่องราวมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่อาจจะด้วยข้ออ้างที่ว่าที่บ้านไม่มีเนต (แถมร้านเนตหน้าปากซอยก็โดนขโมยขึ้น) หรือเพราะความขี้เกียจก็ตามแต่</span><div><span class="Apple-style-span" style="font-size: 13px;"><span class="Apple-tab-span" style="white-space:pre"> </span>ช่วงนี้อ่านหนังสือเยอะมาก โดยเฉพาะหนังสือของปราบดาหยุ่น เรียกว่าอยู่ในช่วงปราบดาฟีเวอร์เลยก็ว่าได้ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือรวมบทความ ทั้งนี้ก็เพราะว่าค่อนข้างที่จะอ่านง่ายกว่าวรรณกรรมที่ต้องใช้เวลาอ่าน และต้องการความต่อเนื่องเป็นพิเศษ ซึ่งต้องแบ่งเวลาไปทำทีสิสด้วยคงจะไม่เหมาะ อ่านไปก็คิดว่าบางทีการเป็นนักเขียนก็น่าจะเป็นอาชีพในฝันอีกอย่างหนึ่งของเราก็เป็นได้ จำได้สมัย ม.ปลายเคยมีความสุขกับการเขียนวิจารณ์หนังในสมุดกับเพื่อน เขียนให้อ่านกันเอง เป็นการเปิดเผยความคิดของเราได้ดีนักแล เพราะรู้ว่าเป็นคนพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ การเขียนคงจะเป็นกาารสื่อสารที่ง่าย และผ่านการไตร่ตรองจากสมองอย่างละเอียด</span></div>Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-60866271948719462582008-06-24T20:04:00.000-07:002008-12-11T02:37:34.648-08:00jenga !!<div><br /><br /></div><div><a href="http://2.bp.blogspot.com/_HC1YPUBrrIc/SGG1--6nB2I/AAAAAAAAACQ/TmIkeQBBTMk/s1600-h/jenga2.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5215649937117087586" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_HC1YPUBrrIc/SGG1--6nB2I/AAAAAAAAACQ/TmIkeQBBTMk/s320/jenga2.jpg" border="0" /></a> <span style="font-family:courier new;">อัพเกี่ยวกับงานบ้าง</span><br /><br /><br /><p><span style="font-family:Courier New;">เป็นการแทนค่าพลังงานทั้งหมดเปรียบเสมือนตัวต่อไม้</span></p><br /><br /><br /><p><span style="font-family:Courier New;">แต่ละแถวแทนด้วยชนิดต่างๆ เช่น นำมัน / ไฟฟ้า bla.bla..bla...</span></p><br /><br /><br /><p><span style="font-family:Courier New;">หากหยิบออกอย่างเหมาะสมก็จะทำให้พังทลายทั้งระบบ แต่ก็มีพลังงานทดแทนซึ่งแทนด้วยแท่งกระบอก</span><span style="font-family:Courier New;">ดังรูป v</span></p><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5215651485746313762" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_HC1YPUBrrIc/SGG3ZIAluiI/AAAAAAAAACg/9K3Qe42L-qc/s320/jenga3.jpg" border="0" /><span style="font-family:courier new;">ซึ่งแทนได้จริงแต่ไม่เสถียร หากใช้มากไปก็จะพังทลาย ดังรูป v (อีกแล้ว)</span></div><div><span style="font-family:Courier New;"></span> </div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5215651868382216690" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/_HC1YPUBrrIc/SGG3vZcGQfI/AAAAAAAAACo/3gCXtfE4OLM/s320/jenga5.jpg" border="0" /><span style="font-family:courier new;">ก็ประมาณนี้แหละครับโฮ่ๆๆ </span><span style="font-family:courier new;"><br /></span><span style="font-family:courier new;"><br /></span><br /><br /></span><p></p><br /><br /><br /><br /><p></p><br /><br /><br /><br /><p><span style="font-family:Courier New;"></span></p>Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-35529511510163223442008-06-22T20:52:00.000-07:002008-06-22T20:55:13.588-07:00ร่วมกันเสวนา ณ วงสนทนาผมมีความรู้สึกว่าการได้ร่วมพูดคุยกับเพื่อนๆนั้นได้อะไรดีๆเยอะกว่าการอ่านหนังสือ. ความจริงมันก็ไม่จริงเสมอไป? การพูดคุยบางทีก็สู้อ่านหนังสือไม่ได้ในบริบทที่ต่างไป หากแต่ "ณ เวลานี้"การคิดวิเคราะห์หาโครงการ / งาน การพูดคุยสามารถตอบโจทย์ได้มากกว่า เนื่องจากเราสามารถมีอารมณ์ร่วมกับมัน อีกทั้งยังได้รับคำแนะนำที่มาจากอีกฝั่งของ "อีโก้" ซึ่งเป็นการเช็คตัวเองที่ดีมากหากว่ามัวแต่หลงกับโจทย์และคิดว่ามันดีแล้วในแบบที่มันเป็น. เพียงแต่...คำแนะนำน้ันๆต้องผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน นำมาใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็น ไม่ใช่โดนชักจูงจนเสียรูปขบวน เมื่อเป็นเช่นนั้นผมจึงกลับมาอ่านบทความเก่าๆของตนเอง พยายามดึงตัวเองออกจากตนเองเพื่อมาอยู่ในสถานะที่เป็นกลาง. สิ่งที่ผมมักจะเป็นและพยายามแก้ไขอยู่คือมักจะคิด...คิด...คิด และก็คิดให้ความสนใจกับการคิดจนเหลือเวลาให้การทำเพียงเล็กน้อย. เป็นจุดอ่อนที่ต้องพยายามแก้ไข และเอาชนะมันให้ได้ สวัสดี.Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-38986644521837966602008-06-13T22:04:00.000-07:002008-06-13T22:14:30.350-07:00เบื่อไหม ?ผมว่าคงมีหลายคนที่เป็นแบบผม<br /> เบื่อ...<br /> หลายครั้งหลายคราวที่อ่านตามหน้าหนังสือพิมพ์ มีแต่การสาดสีกัน<br /> ทั้งที่ประเทศกำลังย่ำแย่ แต่ก็ยังเห็นแก่ตัวเองและพวกพ้อง ทำแต่ในสิ่งที่ผมคิดว่าคนรุ่นใหม่หลายๆคนก็คงรู้สึกอย่างผม<br /> เบื่อหน่าย...<br /> คิดถึงนายกคนก่อน คนที่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง รักป่าไม้ รักความสงบ<br /> ถ้ามีคนอย่างท่านในประเทศเพิ่มขึ้นเยอะๆ คงไม่ต้องกลัวว่าอนาคตกรุงเทพจะจมน้ำJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-39435613829426414332008-06-06T20:59:00.000-07:002008-06-06T21:29:55.857-07:00จรรยาบรรณในการออกแบบโลกเรานั้นอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่แค่ไหนใครๆก็รู้ การที่เราประกาศปาวๆว่าโลกร้อนนะ ช่วยกันประหยัดพลังงานนะ หากแต่ก็ยังคงขอถุงพลาสติกจาเซเว่น ใช้คอมอย่างบ้าคลั่งเพื่อเล่นเกมส์ หรือ อยากได้รถคันงามคันใหม่ให้ดูมีชาติตระกูล ก็ดูจะเป็นเรื่องที่น่าขันและฉาบฉวยยิ่งนัก ความจริงมนุษย์ทุกคนทุกสาขาวิชาชีพนั้นก็สามารถช่วยโลกได้หากว่าได้ใส่ใจรายละเอียดของชีวิตตนเองสักนิด...แต่ก็ไม่ทำกัน<br /> การเป็นนักออกแบบนั้นเหมือนมีสิทธิพิเศษที่สามารถทำโน้มน้าวให้บุคคลนั้นๆมีความรู้สึกร่วมกับสิ่งที่เราสื่อสารได้ เพียงแต่ว่าเราจะมีจรรยาบรรณมากแค่ไหนที่จะให้สิ่งที่มีประโยชน์กับบุคคลทั่วไป และเราเป็นนักออกแบบแล้วหรือยังJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-38573586198987401592008-06-06T20:43:00.000-07:002008-06-06T20:54:53.369-07:00งานเข้าจากที่พยายามจะย้ายบล็อกไป แต่แล้วคอม5ก็ต้องใช้บล็อกอีก ก็เอาเป็นว่าใช้บล็อกนี้กับวิชาคอม5แล้วกันส่วน อีกบล็อกนึงก็จะเป็นบล็อกที่มีอิสระมากกว่า อยากอัพอะไรก็อัพแล้วกันนะครับ อาจารย์มะลิ และ อาจารย์เคลวิน ที่เคารพJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-838690028067370172008-05-14T21:26:00.000-07:002008-05-14T21:30:06.013-07:00ย้ายบล็อกแล้วย้ายบล็อกแล้ว !<br />ย้ายบล็อกแล้ว !!<br />ย้ายบล็อกแล้ว !!!<br /><br /><a href="http://turkkrub.blogspot.com/">http://turkkrub.blogspot.com/</a><br /><br />ลุยโลด.......Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-89292772391537666132008-04-17T03:01:00.000-07:002008-04-17T03:09:12.759-07:00สวัสดีทุกคน...อีกทีนะอีกทีนะ!!!ขณะนี้ฝึกงานอยู่ครับ<br /><br />ไม่ได้อัพนานมาก<br /><br />ไม่รู้ว่ามีใครเข้ามาอ่านบ้างหรือเปล่า<br /><br />เอาเป็นว่า<br /><br />อีกสักพักจะย้ายบล็อกแล้ว<br /><br />แล้วจะมาบอกอีกที<br /><br />หวังว่าคงไม่นานนี้นะJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-59100409461937898962008-02-19T07:45:00.000-08:002008-02-19T08:12:18.493-08:00แด่หนูเดียวว่าจะอัพนานแล้ว แต่ด้วยเหตุผลหลายประการก็เลยไม่ได้อัพ<br /><br />ถึงหนูเดียว ( หลายคนอาจจะงงว่าเป็นใคร )<br />- หนูเดียวเป็นหมาเพศผู้ (แต่เรามักเรียกมันว่าหนูเพื่อเพิ่มความน่าเอ็นดูเข้าไปอีก)<br />- หนูเดียวอายุเกือบขวบแล้ว (ไม่รู้วันเกิดแน่ชัด)<br />- หนูเดียวตาบอดข้างหนึ่ง (นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมถึงชื่อหนูเดียว)<br />- หนูเดียวเป็นเด็กกำพร้า (แม่ทิ้งมันตั้งแต่แรกเกิด)<br />- หนูเดียวเป็นเด็กต่างจังหวัด (พี่ที่อยู่บ้านเช่าหลังบ้านเก็บมันมาจากเกาะน่าจะสมุยนะ)<br />- หนูเดียวตายแล้ว(วันพฤหัสที่14)<br />- หนูเดียวรักเรา (เราก็รักหนูเดียวนะ)<br />- เราคิดถึงแกนะหนูเดียว ไปดีนะ<br /><br />เรารู้ข่าวว่าเดียวตายเมื่อเย็นวันศุกร์ ตายเพราะเลือดออกที่ปอด สาเหตุนั้นไม่แน่ชัด<br /><br />เราจะเห็นคุณค่าของสิ่งใด ก็ต่อเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว<br /><br />ตอนมันอยู่ เราสามารถเล่นกับมันได้ทุกวัน<br /><br />เพียงแค่ผิวปากมันก็วิ่งมาหาอย่างรวดเร็ว<br />แม้ว่าต้องเล่นกันผ่านรั้ว เพราะไม่ใช่หมาของเราก็ตาม<br /><br />แต่ตอนนี้ เมื่อวานนี้ และมะรืนนี้ ยืนผิวปาก....ไม่มีเดียววิ่งมาเหมือนเดิม<br /><br />รู้สึกผิดที่ให้เวลากับมันน้อยไป<br /><br />ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีกเวลาที่คิดถึงหน้ามันตอนเราไปหา<br />ใบหน้าของมันมีความสุขมาก<br /><br />ขอโทษนะหนูเดียว<br />ไปดีนะ....Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-52477048538554000762008-01-27T18:51:00.000-08:002008-12-11T02:37:34.851-08:00หืม.....?<a href="http://4.bp.blogspot.com/_HC1YPUBrrIc/R51DkW4vTtI/AAAAAAAAABs/dd3bKOYbGG0/s1600-h/block+[Converted].jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5160355039934369490" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/_HC1YPUBrrIc/R51DkW4vTtI/AAAAAAAAABs/dd3bKOYbGG0/s320/block+%5BConverted%5D.jpg" border="0" /></a><br /><div></div>Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-23447361961659596602008-01-21T13:20:00.001-08:002008-01-21T13:40:12.615-08:00ผมชื่อ Turk ครับก่อนที่จะพูดเรื่อง Micro-Macro เหมือนคนอื่นๆ ผมขอประกาศให้รู้กันถ้วนหน้าก่อนว่า ชื่อของผมนั้นเขียนว่า Turk นะครับมิใช่ Terk อย่างที่หลายๆท่านใช้กันในบล็อก ความจริงนั้นผมก็ไม่ทราบว่าที่มาของไอ้ Terk นั้นมาจากไหน ไม่เข้าใจว่ามาจากการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของการเขียนชื่อกระผม หรือเป็นเพราะว่า เกิดจากคนคนนึงเขียนชื่อผมอย่างนี้ แล้วเมื่อคนอื่นๆจะลิงค์ก็เลยนึกไปว่าชื่อผมเขียนย่างนี้ด้วย เป็นลูกโซ่ต่อๆกันไป จากเรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ อาจจะคล้ายๆกับ Butterfly Effect หรือไม่ผมก็ไม่แน่ใจ<br /> ก็เอาเป็นว่าเมื่อผมออกมาแก้ต่างให้ชื่อตัวเองแล้ว ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า<br /> จะมีใครแก้ให้ไหม?<br /> จะมีคนแก้ให้จำนวนกี่คน?<br /> และจะมีคนแก้ให้หมดครบทุกคนในเวลาเท่าไหร่<br />ก็มาคอยดูกันว่าจาก Micro มาเป็น Macro จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่?Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-86240180488562243462007-12-22T10:03:00.000-08:002007-12-22T10:07:07.571-08:00Yes / No Questionเรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อวันพฤหัสได้ไป Present งานวิชา Com Design ให้อาจารย์ติ๊ก และ อาจารย์มะลิฟัง<br /> ยอมรับตัวเองเลยว่าเรานั้นเป็นคนที่เวลาทำงานนั้นมักจะมัวแต่ไปจมปลักกับบางสิ่งบางอย่างที่เราเชื่อมั่นว่าถูกต้องแน่แท้แล้วโดยไม่ได้ถอยออกมาดูว่ามีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าอีกนะ!<br /> แล้วครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้ง โดยที่เรามัวแต่คิดว่าจะทำ MV เป็น Motion โอ๊ย!! ต้องทำแน่ๆแล้ว ถึงขนาดลงทุนไปซื้อหนังสือคู่มือโปรแกรมAfter Effect มา และไหนจะยังซื้อโปรแกรมตัดต่อเพลงอีก<br /> แต่เมื่ออาจารย์ Comment มาก็ถึงได้ค่อยมามองตัวเองว่า เฮ้ย ยังมีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าจริงๆด้วย มัวแต่ไปตีกรอบตัวเองอยู่ได้<br /> กลายเป็นว่าไอ้การ Fusion โดยหยิบยกหัวข้อของคนในห้องมา Fusion กันที่ตอนแรกนั้นตั้งใจจะให้เป็นเพียงแค่ Element ใน MV ของเรานั้น น่าเล่นมากกว่าตัว MV ซะอีก<br /><br /> ก็เลยลองนั่งจับคู่คร่าวๆว่าของใครควรจะคู่กับของใครบ้าง (อาจจะมีผิดพลาดบ้างก็ขออภัยและจะเป็นการขอบคุณอย่างสูงถ้าจะมีใครมา Comment หัวข้อให้ถูกด้วย)<br />ดังนี้<br /> Personal Identity (Nut) + ล้อเลียนนักการเมือง (บิว) + ความทรงจำ (พี่แชมป์)<br /> การซ้ำ (มิน/ฮอลล์) + จังหวะมอส (พี่กู้)<br /> เรขาคณิต (เนต/โม่) + Fibonacci (ดิส)<br /> การแยกชิ้นส่วนแล้วนำมาประกอบใหม่ (ดีโก้) + Photo Montage แบบ David Hockney (พี่หมู)<br /> Function ที่เปลี่ยนแปลงของวัตถุ (โอ) + การเปลี่ยนรูปทรงแต่คงคุณสมบัติ (พุฒ)<br /><br />ก็ลองจับคู่ได้คร่าวๆดูแล้วก็น่าสนใจดีนะใครมีความคิดเห็นอะไรก็เพิ่มเดิมได้นะขอรับ<br /><br />ปล. ค่อนข้างจะติดใจกับคำพูดของอาจารย์ติ๊กตอน Present เสร็จมาก ( ขอท้าวความก่อนว่าตอนแรกเพลงที่จะทำ MV เป็นของวง Yes )<br /> <span style="color:#3366ff;">อาจารย์บอกว่า ลองดูดีๆบางทีเพลงของวง Yes อาจจะไม่ได้เป็นเพลงที่ใช่ สำหรับงานนี้ก็ได้<br /></span> คาดว่าน่าจะมีนัยยะซ่อนเร้นอะไรอยู่ในประโยคนี้ (หรือเราคิดไปเองหว่า?)Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-76090240306591457262007-12-19T00:59:00.000-08:002007-12-19T01:13:49.679-08:00ปริศนา You've Got mailวันนี้ได้มีโอกาสดูหนังเรื่อง You've Got mail เป็นรอบที่ 10 แล้วเห็นจะได้<br /> <br /> โดยส่วนตัวแล้วชอบ Meg Ryan กับ Tom Hanks มาตั้งแต่เรื่อง Sleepless In Seattle แล้ว พอได้ดูเรื่องนี้จึงเหมือนได้ดูSleeplessภาค2<br /><br /> เป็นหนังรักที่ไม่ได้มีฉากรักหวานซึ้ง มีก็แต่บทสนทนา แต่อาจจะเพราะด้วยบรรยากาศของหนังด้วยมั้ง จึงทำให้ดูกี่ทีก็ช่างโรแมนติกเสียนี่กะไร<br /><br /> ยิ่งในฉากจบตอนที่นางเอกรู้ว่าพระเอกเป็นใครแล้วมีเพลง Somewhere Over The Rainbow ขึ้นมา ฟังแล้วขนลุก<br /><br /> จำได้ว่าเคยฟังเพลงนี้ในเวอร์ชั่นของ Eric Clapton แล้วคุ้นๆว่าเคยได้ยินที่ไหน<br /><br /> ที่แท้ก็จากเรื่องนี้เอง<br /> เป็นปริศนาอีกอย่างของตัวเองที่ได้รับคำตอบวันนี้Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-20848932073101007252007-12-14T00:52:00.000-08:002008-12-11T02:37:35.082-08:00<div>ไม่ได้อัพบล็อกนาน วันนี้ก็เลยอัพซักหน่อย เรื่องของเรื่องก็คือได้อ่านหนังสือสารคดีเรื่องดาวินชีแล้วชอบมาก ก็เลยหาข้อมูลเพิ่มในเนต</div><br /><div>หยิบมาให้ชมนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ</div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5143749880307151170" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_HC1YPUBrrIc/R2JFQ20qcUI/AAAAAAAAABk/Va2lA5jXHew/s320/vitruvian.jpg" border="0" /><br /><div></div><br /><div>ภาพ เดอะวิทรูเวียสแมน ถูกวาดขึ้นเมื่อประมาณช่วงปี ค.ศ 1490 เป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปิน ลีโอนาโดดาวินชี่ และได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพร่างที่ถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์มากที่สุด นอกจากนี้ในผลงานจริง จะเห็นว่าด้านบน และล่างของภาพมนุษย์ในวงกลม และสี่เหลี่ยมยังเต็มไปด้วยตัวอักษรหลายบรรทัดซึ่ง ลีโอนาโดบันทึกไว้ด้วยตัวอักษรแบบกลับด้าน ถอดความได้ว่า “ภาพนี้วากขึ้นเพื่อเป็นการศึกษาสรีระของร่างกายมนุษย์เพชาย ตามที่ถูกบรรทึกไว้โดยวิทรูเวียส์ นักปราชญ์ชาวโรมันในยุคก่อนคริสตกาล) ว่ากันว่าลีโอนาโด ต้องการสะท้อนถึงการผสมผสานกันระหว่างมนุษย์ กับธรรมชาติ ต้องการสื่อว่า การทำงานของร่างกายมนุษย์นั้นสอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของระบบจักรวาล รูปเหลี่ยมและกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของยุคปัจจุบัน สี่เหลี่ยมเป็นสัญลักษณ์ของวัตถุ วงกลมคือสิ่งมีชีวิต และจิตวิญญาณ เมื่อรวมกันจึงกลายเป็นการดำรงอยู่ของมนุษย์ในปัจจุบันนั่นเอง สัญลักษณ์นี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้กันอย่างแะร่หลายในปัจจุบัน เพื่อแสดงถึงความเป็นสังคมมนุษย์สาเหตุที่ท่านภัณฑรักษ์ โซนิแยร์ เลือกทิ้งปริศานาการตาย เป็นภาพนี้ เพื่อให้แลงดอน ได้ไขปริศนาไปยังผลงานต่างๆของลีโอนาโดดาวินชี่ ต่อไปนั่นเอง</div>Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-48541590307339328022007-12-02T20:25:00.000-08:002007-12-02T20:25:17.501-08:00Fusionหลังจากที่ได้วิเคราะห์และคุยใน Class แล้วก็ได้ข้อสรุปที่คำว่า Fusion ที่เหลือก็คือการต่อยอดคำให้ได้มากที่สุด<br /><br />รู้สึกว่าการที่เราคิดอยู่คนเดียวนั้น จริงอยู่ว่าสามารถคิดได้เรื่อยๆ แต่ความคิดที่ได้ก็มีเพียงมิติเดียว<br /><br />เมื่อวันศุกร์จึงได้ร่วมถกกับพี่แชมป์ และ เนต บอกได้คำเดียวว่ามันส์หยด อีกทั้ยยังได้พี่ ท่านอ้น ผู้มีความรู้อย่างยิ่งมาร่วมด้วย<br /><br />จากความคิดมิติเดียว เมื่อได้คุยสนทนากันจึงทำให้ มีมิติเพิ่มขึ้นเป็น 2มิติ 3มิติ และ 4มิติ ตามลำดับ<br /><br />จึงได้ผลสรุปว่า<br /><br />Fusion คือการรวมตัวกันของ 2 สิ่งขึ้นไปโดยที่ 2 สิ่งนั้น<br />-ต้องมีสิ่งที่เหมือนกัน ( สิ่งนี้คือตัวเชื่อมให้การ Fusion นั้น สมบูรณ์)<br />-ต้องมีสิ่งที่ต่างกัน<br /><br />เช่น<br />ม้า + ลา = ล่อ<br />สปาเกตตี้ + ปลาเค็ม = สปาเกตตี้ปลาเค็ม<br />เป็นต้นJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-39897953737527190062007-11-25T19:22:00.000-08:002007-11-25T19:22:18.302-08:00พูดคุยอย่างสนุกสนานเมื่อวันศุกร์ได้นั่งคุยกับพี่แชมป์ (อีกแล้ว)<br />และก็ได้วิเคราะห์กันถึงเรื่องราวต่างๆของ Pentagram หลังจากไป Concentrate กับ PushPin กันหลายสัปดาห์<br /><br />ก็สามารถวิเคราะห์กันอย่างสนุกและคิดว่าน่าจะหาประเด็นที่น่าสนใจกันได้<br />แต่ติดตรงปัญหาเล็กๆที่เชื่อมโยงกับ Post Modern<br /><br />วันเสาร์จึงนัดกับคุณณัฐ (สับสนนิดหน่อย)<br />โดยคุณณัฐนัดแนะว่าเจอกัน9โมง<br /><br />เวลาผ่านไป<br /><br />9โมง<br />.......<br />10โมง<br />.........<br />10โมงครึ่ง<br />...........<br /><br />จน11โมงไอ้คุณณัฐถึงมา<br /><br />หลังจากนั้นก็เริ่มใส่กันอย่างไม่ยั้ง (พูดคุยกันนะ) ไม่ให้ได้หายใจหายคอ<br />ก็หาข้อสรุปที่ตรงกันได้หลายอย่าง<br />เช่น Pentagram นั้นคาบเกี่ยวระหว่างยุค Modern กับ Post Modern<br /><br />ส่วนหัวข้อที่น่าสนใจก็ List ไว้หลายๆหัวข้อ<br />อาจจะดีบ้าง ไม่ดีบ้าง<br />เดี๋ยววันอังคารก็คงได้รู้แล้วล่ะJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-24445425419433899832007-11-18T02:27:00.000-08:002008-12-11T02:37:35.310-08:00Editorialเป็นงานวิชา Editorial ที่ชอบมาก<br /><br />ดูกี่ทีก็ขำ<br /><br />เชิญชม<img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5134125095527445266" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_HC1YPUBrrIc/R0ATkpdU8xI/AAAAAAAAABc/XtqjINpMm84/s320/newerr.jpg" border="0" />Jakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-45943100551340937012007-11-18T02:25:00.000-08:002007-11-18T02:25:33.280-08:00หายไปนานไม่ได้มาอัพบล็อกนานมากเลย<br />อาจเพราะช่วงนี้ยุ่งๆอยู่<br /><br />แถมพอมีเวลา จะอัพก็อัพไม่ได้อีก<br /><br />เอาเป็นว่า<br /><br />เมื่อวันจันทร์ได้มีโอกาสไปหา Mr. Harvey กับ คุณณัฐ<br />ได้ Speak English กันอย่างสนุกสนาน รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง<br /><br />อ้อลืมบอกไป พอดีพวกเราได้ไปออกแบบ Graphic ขวด แชมพู ให้กับบริษัท Mr. Harvey<br /><br />ต่อๆๆ<br /><br />ก็ยอมรับว่าความอดทนในการฟังภาษาอังกฤษของผมนั้น มีขีดจำกัด<br />โดยเฉพาะการฟังสำเนียงของ Mr. Harvey นั้นต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก<br />ทั้งเสียงที่เบา เสียงในลำคอ อีกทั้งมุขฝืดๆอีก<br />ยิ่งหลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง แล้วสิ่งที่ทำได้ก็คือ พยักหน้าแล้วพูดว่า อืมมมม<br />ซึ่งไอ้คุณ ณัฐก็คงทำเช่นกัน<br /><br />แต่ก็ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีเหมือนกันJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-45370297568152607272007-11-09T20:39:00.001-08:002007-11-09T20:39:31.541-08:00Googleวันนี้ได้ Search ใน Google เรื่อง Pentagram และ Push-Pin Studio<br />รู้สึกตกใจอย่างมาก!<br />เวปแรกที่เจอ<br />Blog ของเรานี่!<br /><br />โอ้วววววววววว<br /><br />มีความรู้สึก 2 อย่างในเวลาเดียวกัน<br />1. ภูมิใจเล็กๆ ที่มีชื่อเราใน Google<br />2. รู้สึกว่า จริงอย่างที่อาจารย์ ติ๊ก ว่า เมื่อลง Blog แล้ว ทุกคนทั่วโลกสามารถเห็นสิ่งที่เราเผยแพ่ออกไปได้<br /><br />ต้องรับผิดชอบกับสังคมให้มากกว่านี้<br /><br />แล้วจะพยายามครับJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5366981298947965510.post-42608593907235795002007-11-09T00:33:00.000-08:002007-11-09T00:33:11.509-08:00วันสุขชอบวันศุกร์<br />ชอบอยู่หอสมุด<br />รุ้สึกสงบดี เวลาอ่านหนังสือ<br /><br />วันนี้ได้มีการถกเถียงกับพี่แชมป์ โดยหัวข้อใหญ่ๆคือ<br />Push Pin กับ Pentagram เกี่ยวข้องกันอย่างไร<br /><br />ผ่านไป 2 ชั่วโมงอย่างรวดเร็ว<br /><br />สรุปใจความตามความคิดของพวกเราได้ว่า<br />ทั้ง 2 นั้น เกิดมีอิทธิพลในยุคสมัยเดียวกัน<br />เป็นเสมือน Beatle แห่งวงการ Graphic เหมือนกัน<br /><br />โดยส่วนตัวนั้น ชอบ Beatle เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว<br />เลยกะว่าจะหาข้อมูลของ Beatle เพิ่ม<br /><br />แล้วเจอกัน 4 เต่าทองJakrapunhttp://www.blogger.com/profile/05715187241832553306noreply@blogger.com0