วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

walk

วันนี้เดินไปสะพานควายเกือบจะตามปกติเพราะเป็นการเดินอย่างมีสติมาก
ตามปกตินั้นเวลาเดินก็มักจะคิดเรื่องอะไรเรื่อยเปื่อย ซึ่งสำหรับเรานั้นการเดินก็ช่วยสร้างจินตนาการได้ดีเช่นเดียวกับความมืด ฉะนั้นถ้าใครคิดจะสร้างห้องทำงานให้เป็นห้องมืดที่มีเครื่องวิ่งออกกำลังกายผมก็คงจะไม่ตะขิดตะขวงแต่อย่างใด
การเดินวันนี้ที่มีสติก็เพราะว่าพื้นรองเท้าแตะนั้น ดอกยากได้สูญสลายไปตามกาลเวลาเรียบร้อยแล้ว เพื่อพบกับพื้นถนนที่ฝนพึ่งตกหมาดๆจึงไม่ต่างอะไรกับการเล่นสเก็ตน้ำแข็งเลย จึงต้องเดนซอยเท้าและก้มมองพื้นตลอดเวลาพร้อมกลับคิดตลอดว่า ทำไมกูไม่ใส่คู่อื่นมาวะแต่ที่จริงความบกพร่องบางอย่างก็เป็นข้อดีเหมือนกัน ปกติทุกวันที่เราเดินไปสะพานควายนั้นค่อนข้างที่จะเรื่อยเปื่อยมาก (พักนี้เดินทุกวัน)เคยเรื่อยเปื่อยจนรถเกือบชน แต่การเดินทั้งลื่นๆ นี้ก็สนุกดีไปอีกแบบ ล้มไม่กลัวหรอกแต่กลัวอายคนรอบข้างมากกว่า
ชีวิตนี้ล้มมาหลายครั้ง ความเจ็บน่ะไม่เท่าไร่หรอกแต่เสียงหัวเราะจากคนรอบข้างนี่สิเจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจผมว่าคนอื่นก็คงเป็นเหมือนผม โดยเฉพาะถ้าคนที่หัวเราะนั้นเป็นคนที่เรารักแล้วด้วยนั้นแทบอยากจะนอนตายอยู่ตรงนั้นเลย
แต่ก็นั่นแหละแรงถากถาง เยาะเย้ยนี่สิถึงเป็นแรงกระตุ้นให้เราลุกขึ้นสู้ใหม่ได้อย่างมุ่งมั่นกว่าเดิมชักเรื่อยเปื่อยแล้ว ลาดีกว่า
ปล. หลายเดือนก่อนไปเดินงานกาชาดได้กิน ทอดมันปลาหมึก อร่อยมาก เดาเอาเองว่าเป็นการเอาเนื้อของทอดมันปลากรายมาผสมกับปลาหมึกแล้วทอด ขีดละ 30 กับการชั่งที่เห็นเฉพาะคนขาย ชอบๆๆ มีขายที่ไหนอีกใครช่วยบอกที